
คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยนาย พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ พ้นสมาชิกภาพ ส.ส. กรณีถือครองหุ้นสื่อไอทีวี ขณะที่ศาลรัฐธรรมนูญ มีกำหนดประชุมประจำสัปดาห์ในวันนี้ (12 ก.ค.) ช่วงบ่าย
เอกสารของ กกต. ที่เผยแพร่ต่อสื่อมวลชนระบุว่า ตามที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้เสนอรายงานของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีมีหลักฐานปรากฏว่า นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ เป็นผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใดในวันสมัครรับเลือกตั้ง อันเป็นลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 มาตรา 82 วรรคสี่ ให้ที่ประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้งพิจารณา ในวันอังคารที่ 11 ก.ค. 2566
วันนี้ (12 ก.ค. 2566) คณะกรรมการการเลือกตั้ง พิจารณาเรื่องดังกล่าวต่อจากการประชุมคราวที่แล้ว เห็นว่า สมาชิกภาพของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ มีเหตุสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 มาตรา 101(6) ประกอบมาตรา 98 (3) จึงให้ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อพิจารณาวินิจฉัยต่อไป
กรณีที่ กกต. ยื่นของศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย อันเนื่องมาจากเหตุที่นายพิธา มีชื่อถือครองหุ้นสื่อ บริษัท ไอทีวี จำกัด มหาชน จำนวน 42,000 หุ้น

ก้าวไกล ชี้กระบวนการโหวตนายกฯ ยังเดินหน้าต่อ
ภายหลัง กกต. มีมติดังกล่าว นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล แถลงหลังเสร็จสิ้นการประชุมสภาฯ ว่า มติของ กกต. ส่งกรณีถือหุ้นไอทีวีของนายพิธาให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย เป็นการกระทำที่ขัดต่อระเบียบของ กกต. เอง จากการอ้างกรณีคำวินิจฉัยกรณีเงินกู้พรรคอนาคตใหม่